ไปโตเกียวดิสนีย์เดือนไหนดี? อากาศดี คนไม่แน่น วันหยุดน้อย

Choose Language :

เวลาเราวางแผนจะไปโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท สิ่งที่ทำให้ลังเลที่สุดไม่ใช่แค่เรื่องราคา แต่คือคำถามง่าย ๆ ว่า “เดือนไหนไปแล้วคุ้มที่สุด?” เพราะอากาศญี่ปุ่นเปลี่ยนเร็วมาก บางเดือนแดดดีเดินสบาย แต่บางเดือนลมหนาวจนแทบไม่เห็นปราสาทกันเลย ไหนจะวันหยุดญี่ปุ่นที่มากระทบจำนวนคนในปาร์คแบบเต็ม ๆ อีก บทความนี้แอดเลยอยากรวบให้ครบตั้งแต่สภาพอากาศ ช่วงคนเยอะคนน้อย ไปจนถึงเดือนที่ควรหลีกเลี่ยงจริง ๆ จะได้วางแผนทริปกันแบบไม่พลาดนะคะ

เที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ช่วงเดือนไหนดีที่สุด

ฤดูกาลของโตเกียวมีทั้งหมด 4 แบบ คือ ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งแต่ละฤดูก็ให้บรรยากาศคนละฟีลจนแทบเหมือนเป็นคนละปาร์คเลยค่ะ อากาศส่งผลกับทั้งการเดินเที่ยว เสื้อผ้าที่ต้องเตรียม และโชว์ต่าง ๆ เพราะ Disneyland เป็นปาร์คกลางแจ้งที่ “พึ่งอากาศมากที่สุด” แถมวันหยุดญี่ปุ่น (National Holidays) ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้คนแน่นแบบคาดไม่ถึงด้วย ดังนั้นการเลือกเดือนให้ดีตั้งแต่ต้นคือช่วยประหยัดแรง ประหยัดเวลา และทำให้เที่ยวสนุกขึ้นเยอะมาก ๆ ค่ะ

ฤดูหนาว : มกราคม – มีนาคม

ช่วงนี้คือเวลาที่โตเกียวมีอากาศเย็นที่สุดของปี อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.8 – 9 องศา ลมแรงแบบกัดผิว และถ้ามาเดือนมกราคมก็มีโอกาสได้เห็นหิมะโปรยบาง ๆ บริเวณปาร์ค ทำให้โตเกียวดิสนีย์แลนด์ดูคล้ายฉากในหนังดิสนีย์ที่เงียบและสวยไปอีกแบบค่ะ แต่อีกด้านคือมีความเสี่ยงพายุหิมะเหมือนกัน ถ้าหิมะตกหนัก การเดินในปาร์คจะลำบากมาก โดยเฉพาะถ้าสวมรองเท้าที่ไม่กันน้ำ เพราะน้ำหิมะจะซึมเข้ารองเท้าเร็วมากและทำให้เสี่ยง “หิมะกัดเท้า” ได้ง่าย

ดังนั้นการแต่งตัวมาเที่ยวช่วงนี้ต้องจัดเต็มจริง ๆ ค่ะ ทั้งโค้ทกันหนาว ผ้าพันคอ ถุงมือ และรองเท้าบูทกันลื่น เพราะพื้นในปาร์คบางโซนอาจลื่น และลมจากอ่าวโตเกียวก็แรงกว่าที่คิด ถ้าเตรียมตัวดี ๆ จะเดินสนุก แต่ถ้าประมาทเรื่องรองเท้ากับกันลมคือจะทรมานค่ะ

ข้อดีของการมาเที่ยวช่วงนี้คือ “คนน้อยที่สุดของปี” เล่นเครื่องเล่นต่อเนื่องได้ แต่ข้อเสียคือในส่วนของเครื่องเล่นและโชว์ ช่วงฤดูหนาวเป็นฤดูที่พาเหรดกลางแจ้ง—โชว์—และพลุหน้าปราสาทถูกยกเลิกง่ายที่สุด เพราะลมแรงและอากาศไม่อำนวย โดยเฉพาะวันที่หิมะตกหนักค่ะ

ช่วงที่คนญี่ปุ่นมาเที่ยวเยอะเป็นพิเศษในฤดูหนาว

แม้ฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่คนญี่ปุ่นเลี่ยงออกจากบ้านเพราะอากาศหนาวจัด แต่จะมีอยู่ช่วงเดียวที่จำนวนคนเพิ่มขึ้นคือ

Coming of Age Day วันจันทร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม)
เป็นวันสำคัญที่ญี่ปุ่นจัดพิธีให้เยาวชนที่เข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เด็กสาวจะใส่ชุดฟุริโซเดะสวย ๆ ไปถ่ายรูปกับครอบครัว และหลายครอบครัวจะถือโอกาสออกไปกินข้าวหรือไปเที่ยวต่อ ทำให้คนในปาร์คเพิ่มขึ้นกว่าปกติเล็กน้อยช่วงสุดสัปดาห์นั้น แต่ไม่ถึงกับล้นจนเที่ยวไม่ได้ค่ะ

หลังพ้นช่วง Coming of Age Day ไป—ตั้งแต่ปลายมกราคมจนถึงต้นมีนาคม—คือช่วงที่ดิสนีย์แลนด์ “โล่งสุดในรอบปี” แบบของจริง คิวน้อย สบาย เดินได้เรื่อย ๆ ถ้ารับความหนาวได้ ฤดูหนาวคือฤดูที่คุ้มที่สุดในเชิง “เที่ยวได้เยอะที่สุด” ค่ะ

ฤดูใบไม้ผลิ : เมษายน – มิถุนายน

ฤดูใบไม้ผลิคือช่วงที่โตเกียวสวยที่สุดและได้รับความนิยมสูงสุดในรอบปีค่ะ อากาศอุ่นขึ้นแบบพอดี ๆ เฉลี่ยราว 10 – 20 องศา เดินเที่ยวสบายโดยไม่ต้องทรมานหนาวหรือเจอแดดแรง และถ้ามาช่วงต้นเดือนเมษายนจะตรงกับช่วงซากุระบาน พอดี ซึ่งในโตเกียวดิสนีย์แลนด์เองก็มีต้นซากุระตามโซน พอแสงแดดตกกระทบกลีบซากุระจะสะท้อนเป็นสีชมพูอ่อนสวยมาก เป็นช่วงที่รูปถ่ายออกมาละมุนที่สุดจริง ๆ ค่ะ

การแต่งตัวช่วงนี้ไม่จำเป็นต้องจัดหนักเหมือนฤดูหนาวแล้ว เสื้อคลุมบาง ๆ หรือผ้าพันคอบางเสริมเล็กน้อยพอเพราะลมทะเลโตเกียวยังเย็นอยู่บ้าง แต่ถ้ามาช่วงปลายพฤษภาคมจนถึงมิถุนายน ต้องเตรียมเสื้อกันฝนหรือร่มไว้ด้วยนะคะ เพราะญี่ปุ่นจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน (tsuyu) ช่วงนี้จะมีฝนตกแบบเดาไม่ได้ทั้งวัน ฟ้าตั้งเค้าทีเดียวก็ทำให้โชว์กลางแจ้งต้องงดทันที

ในเรื่องเครื่องเล่นและโชว์ ฤดูใบไม้ผลิคือฤดูที่ พาเหรดและโชว์กลางแจ้งเปิดตามปกติ มากที่สุดของปี แต่เพราะเป็นช่วงฤดูฝนด้วย โชว์พลุยามค่ำคืนอาจถูกยกเลิกได้ถ้าฝนลงเม็ด—even แค่ปรอย ๆ ก็มีสิทธิ์งดค่ะ ต้องเช็กประกาศในแอปของพาร์คตลอดวัน

ช่วงที่คนญี่ปุ่นมาเที่ยวเยอะเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ผลิ
ฤดูนี้คนเยอะเป็นปกติอยู่แล้ว แต่จะมีช่วงที่พาร์ค “แน่นที่สุดของปี” ช่วงนึง คือ

Golden Week – ชุดวันหยุดยาวใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น (29 เม.ย. – 5 พ.ค. ประกอบด้วย Showa Day, Constitution Memorial Day, Greenery Day และ Children’s Day)
ช่วงนี้คนญี่ปุ่นทั้งประเทศหยุดพร้อมกันหลายวันติด ครอบครัวพาเด็ก ๆ มาเที่ยวมากที่สุด คิวเครื่องเล่นแตะ 2–3 ชั่วโมงเป็นเรื่องปกติ และปาร์คแน่นแบบเดินได้ช้ากว่าปกติหลายเท่าค่ะ

หลัง Golden Week คนยังเยอะแบบ steady เพราะอากาศดีมาก แต่ไม่ถึงกับล้นพาร์คเหมือนสัปดาห์นั้น และยังถือว่าเป็นฤดูที่น่าเที่ยวที่สุดของปีเพราะอากาศดี เครื่องเล่นเปิดครบ และบรรยากาศทั้งพาร์คสดใสค่ะ

ฤดูร้อน : กรกฎาคม – กันยายน

อากาศช่วงนี้จะเริ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ต้นกรกฎาคม อุณหภูมิประมาณ 24–26 องศา แต่พอเข้าช่วงสิงหาคม–กันยายนจะพุ่งขึ้นไปเฉลี่ยใกล้ ๆ 30 องศา ซึ่งเป็น “ความร้อนแบบแห้ง” ต่างจากบ้านเราที่เป็นร้อนชื้นค่ะ อากาศแห้งนี่แหละที่ทำให้เหนื่อยง่ายและเสี่ยงฮีทสโตรกสูงมาก เดิน ๆ อยู่แล้วหน้ามืดมีให้เห็นในปาร์คทุกปี เพราะร่างกายเสียความชื้นเร็วมากกว่าที่เราคิดจริง ๆ

สำหรับการแต่งตัวช่วงนี้ต้องเน้นผ้าบางและระบายอากาศดีที่สุดค่ะ เสื้อกันหนาว ผ้าพันคอไม่ต้องพกมาเลย เปลืองพื้นที่เป้มาก ของจำเป็นที่สุดคือ ครีมกันแดด ร่ม หมวก และ น้ำดื่ม ต้องจิบน้ำบ่อย ๆ ไม่งั้นผิวไหม้แบบไม่รู้ตัว และความไม่สบายตัวจากแดดนี่แหละจะทำให้เที่ยวไม่สนุกค่ะ

เพราะอากาศร้อนจัดแบบนี้ คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ “เลี่ยงมาเที่ยว” มากกว่าฤดูอื่น ทำให้เป็นฤดูลำดับรอง ๆ ที่ คิวเครื่องเล่นน้อย เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเล่นครบหลายเครื่องแบบไม่อยากรอคิวยาว ๆ ส่วนกิจกรรมฤดูร้อนในปาร์คจะมีบ้างเป็นช่วง ๆ แต่ไม่ใช่ธีมใหญ่เท่าใบไม้ร่วงค่ะ

ข้อดีอีกอย่างคือ ค่าเครื่องบินถูกกว่าช่วงพีคอื่นมาก ทำให้ฤดูร้อนเป็นทางเลือกที่คุ้มสำหรับคนที่ไม่กลัวร้อนและอยากได้ความโล่งสบายตอนเดินเที่ยว

ช่วงที่คนญี่ปุ่นมาเที่ยวเยอะเป็นพิเศษในฤดูร้อน
ถึงจะเป็นฤดูที่คนท้องถิ่นเลี่ยง แต่ก็มีสองช่วงที่ “คนญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นจริง” คือ

ช่วงปิดเทอมฤดูร้อน (ประมาณปลายกรกฎาคม–สิงหาคม)
เด็ก ๆ หยุดยาว ครอบครัวจะพามาเที่ยวมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์ คิวจะยาวขึ้นกว่าเดือนกรกฎาคมตอนต้น
สัปดาห์เทศกาลโอบง (Obon) โดยทั่วไปตรงกลางเดือนสิงหาคม (ราว 13–16 ส.ค.)
ถึงจะไม่ใช่วันหยุดราชการ แต่ทั้งประเทศจะหยุดจริง คนเดินทางเยอะมาก ทำให้ปาร์คคึกคักขึ้นแบบเห็นได้ชัด

พอเข้าสู่ปลายสิงหาคม–กันยายน โรงเรียนเริ่มเปิดเทอม คนญี่ปุ่นจะน้อยลงอีกครั้ง ทำให้เป็นช่วงที่ปาร์คกลับมาเดินสบายมากค่ะ

ฤดูใบไม้ร่วง : ตุลาคม – ธันวาคม

ฤดูใบไม้ร่วงคือช่วงที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์สวยที่สุดในรอบปีและคนเยอะที่สุดแบบล้นปาร์คค่ะ เพราะอากาศจะเย็นกำลังดี เฉลี่ยประมาณ 12–18 องศา ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นส้ม เหลือง น้ำตาล ทำให้ทั้งปาร์คกลายเป็นฉากที่อบอุ่นมาก ๆ เวลาถ่ายรูปคือสวยทุกมุมจริง ๆ และยิ่งเข้าเดือนพฤศจิกายน–ธันวาคม แสงจะนวลและฟีลโรแมนติกมากขึ้นไปอีก

ช่วงนี้เป็น “High Season” ตัวจริงเพราะมีอีเว้นท์ใหญ่เรียงกันแบบไม่พัก ตั้งแต่ ฮาโลวีน → คริสต์มาส → ปีใหม่ การตกแต่งในปาร์คคือจัดเต็มสุดของปี ไฟประดับสวยมาก ถ่ายรูปทั้งวันยังไม่หมดมุมเลยค่ะ

โดยเฉพาะ เทศกาลฮาโลวีน (ตุลาคม) ซึ่งเป็นช่วงเดียวของปีที่ปาร์คอนุญาตให้แขก “แต่งตัวเป็นตัวละครดิสนีย์เต็มยศ” เข้าไปในปาร์คได้แบบจัดเต็มไม่ห้ามเลยค่ะ ชาวญี่ปุ่นนี่ไม่มีใครยอมใครจริง ๆ เครื่องแต่งกายคือเนียนระดับโปร บางคนทำชุดเองทั้งชุด บรรยากาศในปาร์คเลยสนุกมาก หาที่อื่นไม่ได้ในช่วงอื่นของปี

นอกจากแฟน ๆ จะได้ใส่ชุดคอสเพลย์เข้าในปาร์คแล้ว ธีมเครื่องเล่น, พาเหรด, โชว์กลางแจ้ง และแม้แต่ชุดของแคสเมมเบอร์ก็จะเปลี่ยนไปตามธีมฮาโลวีน บางโซนตกแต่งใหม่หมด ทั้งปาร์คฟีลแบบลึกลับสนุก ๆ พอเข้าพฤศจิกายนก็จะเปลี่ยนเป็นธีมคริสต์มาสทั้งหมดแบบไม่ให้พักหายใจเลยค่ะ

ช่วงที่ปาร์คจะคนเยอะกว่าปกติแบบชัดเจน

ฤดูนี้ไม่ใช่แค่คนต่างชาติ แต่ “คนญี่ปุ่นเองก็เที่ยวหนักที่สุดของปี” เพราะตรงกับวันหยุดสำคัญหลายช่วง รวมถึงช่วงที่โรงเรียนหยุดกันเยอะค่ะ

Respect for the Aged Day (วันจันทร์ที่สามของเดือนกันยายน) + Autumnal Equinox Day (22–23 ก.ย.) บางปีสองวันนี้จะติดกันจนเกิด “Silver Week” หรือสัปดาห์หยุดยาวย่อม ๆ ทำให้คนญี่ปุ่นพาครอบครัวมาเที่ยวกันเยอะเป็นพิเศษ และต่อเนื่องถึงต้นตุลาคมค่ะ
ช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น (ประมาณปลายกันยายน–ต้นตุลาคม) เด็ก ๆ หยุดสั้น ๆ แต่พอรวมกับวันหยุดราชการก็ทำให้ปาร์คแน่นมากต่อเนื่อง โดยเฉพาะเสาร์–อาทิตย์ค่ะ
ฮาโลวีน (ทั้งเดือนตุลาคม) คนเยอะที่สุดของปีแบบไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะวันเสาร์–อาทิตย์ นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นแต่งตัวกันจัดเต็มเลยทำให้ปาร์คทั้งสวยและแน่นมาก
คริสต์มาส (กลางพฤศจิกายน – ปลายธันวาคม) แม้คริสต์มาสจะไม่ใช่วันหยุดราชการ แต่เป็น “ฤดูกาลยอดนิยมที่สุดของคนญี่ปุ่น” ทุกวัยมาเที่ยวกันเยอะมาก เขามองคริสต์มาสว่าเป็นเทศกาลโรแมนติกและอบอุ่น ทำให้ปาร์คสวยและแน่นแบบสุดค่ะ

⭐ หมายเหตุสำคัญ : ช่วงปิดเทอมของโรงเรียนในญี่ปุ่นอาจแตกต่างตามจังหวัดและโรงเรียน แต่โดยรวมมักอยู่ช่วงปลายกันยายน–ต้นตุลาคม และจะมีผลโดยตรงกับจำนวนคนในปาร์คค่ะ

สรุปแบบเร็ว ๆ

อากาศดีที่สุด: เม.ย.–พ.ค.
คนน้อยที่สุด: ปลาย ม.ค.–ต้น มี.ค.
สวยที่สุด: พ.ย.–ธ.ค. (ธีมคริสต์มาส)
สนุกสุด: ต.ค. (ฮาโลวีน)
ประหยัดที่สุด: ก.ค.–ก.ย.
เหมาะกับครอบครัว: มี.ค.–พ.ค.

สรุปแล้วไปโตเกียวดิสนีย์เดือนไหนดีที่สุด?

พอเราไล่อ่านครบทั้ง 4 ฤดูแล้วจะเห็นชัดเลยว่า โตเกียวดิสนีย์แลนด์ไม่มีคำตอบเดียวว่า “เดือนไหนดีที่สุด” เพราะมันขึ้นอยู่กับว่าเราอยากได้ฟีลแบบไหนมากกว่าค่ะ แต่ถ้าต้องเลือกเดือนที่บาลานซ์ที่สุด อากาศดี เดินง่ายคนไม่แน่นเกินไปจริง ๆ แอดจะให้ เดือนพฤษภาคม เป็นตัวเลือกที่สวยที่สุดเลย อากาศดีมาก ซากุระเพิ่งลาจาก ปาร์คยังสดใส และ Golden Week ก็หมดไปแล้ว ทำให้เดินสบายสุด ๆ

แต่เพื่อให้ผู้อ่านเลือกง่ายขึ้น แอดสรุปให้เป็นสไตล์แบบเลือกตาม “เป้าหมายที่อยากได้” นะคะ

ถ้าอยากได้อากาศดีที่สุด > เมษายน – พฤษภาคม อากาศอุ่นแบบพอดี เดินทั้งวันไม่เหนื่อย ไม่ต้องแบกเสื้อกันหนาวหนัก ๆ และถ้าตรงช่วงซากุระบานในต้นเมษายนคือบรรยากาศดีมากแบบเหมือนถ่ายโปสการ์ดธรรมชาติไปด้วยในตัวค่ะ

ถ้าอยากเจอคนน้อยที่สุด > ปลายมกราคม – ต้นมีนาคม เป็นช่วงที่คนน้อยสุดของปีแบบตัวจริง เส้นทางเดินโล่ง คิวสั้นจนเล่นเครื่องเล่นได้รัว ๆ แต่ต้องรับลมหนาวกับโชว์กลางแจ้งที่อาจถูกงดง่ายกว่าฤดูอื่นนิดนึงค่ะ

ถ้าอยากถ่ายรูปสวยที่สุดทั้งปี > พฤศจิกายน – กลางธันวาคม ธีมคริสต์มาสคือที่สุดของความฟิน ไฟประดับสวยมาก ใบไม้เปลี่ยนสี แสงดีทั้งวัน เดินไปจุดไหนก็สวย ไม่ต้องหามุมเยอะเลยค่ะ

ถ้าอยากได้บรรยากาศสนุก ๆ แบบจัดเต็ม > ตุลาคม (ฮาโลวีน) เป็นเดือนเดียวของปีที่ปาร์คอนุญาตให้แขกคอสเพลย์เข้ามาได้แบบเต็มที่ ชาวญี่ปุ่นแต่งตัวกันโหดมาก ฟีลสนุกสุด และทั้งปาร์คจะเปลี่ยนธีมใหม่หมดตั้งแต่พาเหรด โชว์ ไปจนถึงเครื่องเล่นค่ะ

ถ้าอยากประหยัดที่สุด (ค่าเครื่องบิน + โรงแรมถูกสุด) > กรกฎาคม – ต้นกันยายน คนน้อยและคิวสั้นมาก เหมาะกับคนที่อยากเล่นเครื่องเยอะ ๆ แบบไม่ต้องรอ แต่ก็ต้องแลกกับอากาศร้อนแบบแห้ง ๆ ต้องดูแลตัวเองดี ๆ นิดนึงค่ะ

ถ้าไปกับเด็กเล็กและอยากให้เดินง่ายที่สุด > มีนาคม – พฤษภาคม อากาศดี ลมไม่แรงจนหนาว และโอกาสยกเลิกโชว์ต่ำมาก ทำให้เหมาะกับครอบครัวที่สุดค่ะ

โตเกียวดิสนีย์ไปตอนไหนดีกว่า ... ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากได้ความทรงจำแบบไหน?

สุดท้ายแล้ว การเลือกเดือนที่จะไปโตเกียวดิสนีย์แลนด์มันไม่ได้มีคำตอบสำเร็จรูปอยู่แล้วค่ะ บางคนชอบอากาศดี ๆ บางคนอยากได้ไฟคริสต์มาส บางคนชอบความโล่งเดินสบาย บางคนก็พร้อมลุยร้อนเพื่อคิวสั้น ทุกฤดูมีเสน่ห์ของมันเองหมด อยู่ที่ว่าเราอยากเก็บความทรงจำแบบไหนกลับมาด้วยมากกว่า

สำหรับแอด ทุกครั้งที่ไปปาร์คมันไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องเล่นหรือรูปสวย ๆ อย่างเดียว แต่สิ่งที่แอดชอบคือ บรรยากาศและฟีลิ่งตอนก้าวผ่านประตูเข้าไปแล้ว เห็นเด็กตัวเล็ก ๆ วิ่งตามคาแรกเตอร์ที่ยืนต้อนรับแขกที่มาเที่ยว ชอบโมเม้นต์เล็ก ๆ ตอนรอคิวเครื่องเล่น หรือเสียงเพลงที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง…ไม่ว่าจะไปเดือนไหน ความรู้สึกนี้ก็ยังอยู่เหมือนเดิมค่ะ

ดังนั้นเลือกเดือนที่เหมาะกับสไตล์เรา แล้วไปสร้างความทรงจำแบบที่เป็นของเราจริง ๆ ดีกว่านะคะ เพราะท้ายที่สุดแล้ว การได้เดินในปาร์คท่ามกลางโลกดิสนีย์ มันคือความสุขที่แตกต่างจากที่อื่นอยู่แล้ว ไม่ว่าอากาศ ฝน คนเยอะหรือน้อย ถ้าเราเตรียมตัวดี ทุกเดือนก็เป็น “เดือนที่ดีที่สุด” ได้เสมอค่ะ