 
															จากรสชาติถึงชีวิต : เบื้องหลังอำนาจนักวิจารณ์อาหาร
ในแอนิเมชั่นเรื่อง Ratatouille เราจะเห็นบทบาทของนักวิจารณ์อาหารที่มีอิทธิพลสูงกับร้านอาหารถึงขนาดที่สามารถทำให้เชฟคนนึงจบชีวิตลงได้ … หลายคนอาจจะคิดว่า “เห้ย! มันเป็นการ์ตูนโลกความจริงไม่มีแบบนั้นหรอก” ..
จริงอยู่ค่ะถ้าประโยคนี้พูดในปี 2025 แต่ถ้าพูดถึงในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 นั้นในโลกของทำอาหารนั้นอาชีพนักวิจารณ์อาหาร ถือเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุด เป็นเหมือนผู้พิพากษากำหนดชะตากรรมของร้านอาหารได้เพียงแค่ตวัดปลายปากกาเลย
 
															เพราะในโลกของการทำอาหาร ชีวิตของเชฟอาจแขวนอยู่บนเส้นด้ายและต้องพึ่งอำนาจในมือของนักวิจารณ์
“ถ้านักวิจารณ์บอกว่าร้านนี้ไม่อร่อย คนก็พร้อมจะเชื่อ และร้านที่ถูกวิจารณ์ลบก็อาจพบจุดจบ แต่ในขณะเดียวกันถ้าร้านนั้นถูกวิจารณ์ว่าอร่อยถึงแม้ว่าจะเป็นร้านธรรมดาก็อาจจะกลายเป็นร้านดังค้างฟ้าประจำเมืองไปเลย”
 
															Ruth Reichl ,Ruth Reichl Dishes on the Last Days of Gourmet Magazine – The New York Times
ยกตัวอย่างนักวิจารณ์อาหารชื่อดังอย่าง Ruth Reichl เธอคือหนึ่งในนักวิจารณ์ที่ทรงอิทธิพลของ New York Times (1993-1999) เธอชอบปลอมตัวไปเป็นลูกค้าทั่วไปเพื่อไม่ให้ร้านนั้น ๆ ดูแลเธอเป็นพิเศษ จากนั้นก็จะกลับมาเขียนบทวิจารณ์ ซึ่งงานเขียนของเธอนั้นมักจะได้รับความสนใจทั้งเชฟและนักชิมต่าง ๆ และยังสร้างปรากฏการณ์คิวยาวหลายเดือนให้กับร้านที่เธอบอกว่าอร่อย และในทางกลับกันร้านที่เคยรุ่งเรืองอาจต้องปิดตัวลงเพราะบทวิจารณ์เชิงลบ
หนึ่งในบทวิจารณ์ที่ดังมาก ๆ ของเธอคือการวิจารณ์ร้าน Le Cirque ในปี 1993 ค่ะ สาเหตุที่ทำให้บทวิจารณ์นี้ดังเนื่องจากเธอใช้เทคนิคการเขียนแบบเล่าเรื่องสองเหตุการณ์คู่ขนานกันเพื่อเปรียบเทียบประสบการณ์สองครั้งที่เธอได้รับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยครั้งแรกเธอไปแบบปลอมตัวแต่ครั้งที่ 2 ไปในฐานะนักวิจารณ์อาหาร และเมื่อถึงเวลาเขียนบทวิจารณ์ของร้านนี้ เธอก็เขียนว่า ..
“… On a first visit, she is treated with casual indifference. On a second visit, when she is recognized, she is treated like royalty. The food, however, is equally magnificent.” (ในการไปครั้งแรก เธอถูกปฏิบัติด้วยความเพิกเฉยอย่างไม่ใส่ใจ แต่ในการไปครั้งที่สองมีคนจำเธอได้ เธอได้รับการปฏิบัติราวกับสมาชิกราชวงศ์ แต่ว่ายังไงก็ตาม อาหารอร่อยเท่ากันทั้งสองครั้ง)
 
															ซึ่งบทวิจารณ์นี้สร้างความสั่นสะเทือนในวงการร้านอาหารในนิวยอร์กอย่างมากเลยค่ะ เพราะเป็นการเปิดโปงการปฏิบัติที่แตกต่างกันระหว่างลูกค้าทั่วไปกับนักวิจารณ์ จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในวงการอาหาร เจ้าของร้านต้องออกมาขอโทษต่อสาธารณะ ร้านอาหารหลาย ๆ ร้านต้องปรับปรุงนโยบายการบริการที่เท่าเทียมกันมากขึ้น และบทวิจารณ์นี้ก็กลายเป็นหนึ่งในบทวิจารณ์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์การวิจารณ์อาหารเลย
 
															ความเห็นของนักวิจารณ์อาหารกับดาวมิชลิน
นอกจากมีนักวิจารณ์อาหารเป็นปัจจัยแล้ว ยังมีระบบดาวหรือการจัดอันดับของมิชลินเองยังเป็นเหมือนเครื่องหมายที่ทรงอิทธิพลมาก ๆ ของร้านอาหารโดยเฉพาะในร้านอาหารยุโรปซึ่งการได้ดาวหรือเสียดาวนั้นมีผลมหาศาลต่อรายได้และชื่อเสียงของร้าน อย่างในกรณีที่เกิดขึ้นจริงกับเชฟ Bernard Loiseau เชฟชื่อดังชาวฝรั่งเศสที่จบชีวิตตัวเองในปี 2003 หลังจากมีข่าวลือว่าร้านของเขาอาจสูญเสียดาวมิชลิน
นอกจากนี้จะมีนักวิจารณ์อาหารและดาวมิชลิน ที่เป็นเหมือนเป็นผู้พิพากษาร้านอาหารแล้ว ก่อนยุคโซเชียลมีเดียจะดังแบบตอนนี้ เว็บไซต์รีวิวอาหารอย่าง Zagat มีอิทธิพลอย่างมากในการตัดสินใจของลูกค้า โดยเฉพาะร้านอาหารในนิวยอร์กและลอสแองเจลิส ซึ่งคะแนนที่ได้รับจาก Zagat ก็กลายเป็นมาตรฐานที่ร้านอาหารมักนำไปใช้ในการโฆษณาร้าน (อารมณ์ประมาณว่าร้านนี้ได้รับคะแนนสูงคนก็จะสนใจค่ะ)
.
แต่ในปัจจุบันมีการใช้งานของ Social Media มากขึ้น ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะเชื่อถือคำรีวิวที่มาจากลูกค้าด้วยกันมากกว่าส่งผลให้มุมมองและอำนาจในการตัดสินรสชาติอาหารของนักวิจารณ์อาหารมืออาชีพนั้น ถูกลดทอนอำนาจลงถึงแม้ว่าจะยังมีบทบาทสำคัญแต่ก็ไม่ได้มีอิทธิพลเด็ดขาดเหมือนในอดีตแล้ว
 
															และในภาพยนตร์อนิเมชันเรื่อง Ratatouille (2007) ได้สะท้อนปรากฏการณ์ในอดีตนี้ผ่านตัวละคร Anton Ego นักวิจารณ์อาหารสุดโหดที่มีแนวคิดสุดโต้ง ซึ่งไม่เพียงสะท้อนภาพของนักวิจารณ์อาหารในยุคนั้นได้อย่างแม่นยำ แต่ยังทำให้เราเห็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับพลังของคำวิจารณ์ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คน
ไม่ว่าจะเป็นผู้วิจารณ์หรือผู้ถูกวิจารณ์ ล้วนต้องตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อคำพูดและการกระทำของตน การวิจารณ์อาหารหนึ่งจานอาจดูเหมือนเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นตรงไปตรงมา หรือการเพิ่มวาจาที่เผ็ดร้อนเพื่ออรรถรสในการอ่าน แต่สำหรับผู้ทำอาหาร จานนั้นไม่ได้เป็นเพียงอาหารธรรมดา หากแต่เป็นตัวแทนของชีวิต ความฝัน และความทุ่มเทของพวกเขา ดังนั้นการวิจารณ์จึงควรคำนึงถึงความละเอียดอ่อนของมิตินี้ด้วยเหมือนกันค่ะ // เรื่องนี้สามารถใช้ได้กับทุกเรื่องนะคะไม่ใช่แค่อาหารด้วย
- All Posts
- DAILY DISNEY NEWS
- Disney Cruise Line
- รวมเรื่องเกี่ยวกับดิสนีย์แลนด์ DISNEY PARKS
- เกร็ดดิสนีย์
- Back
- RESTAURANT ร้านอาหาร
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- Back
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- RESTAURANTS ร้านอาหาร
- DISNEY HOTEL โรงแรมในเครือดิสนีย์
- Back
- RESTAURANTS ร้านอาหารในโตเกียวดิสนีย์แลนด์
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- DISNEY HOTEL โรงแรมในเครือดิสนีย์
- Back
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- RESTAURANT ร้านอาหารเซียงไฮ้ดิสนีย์แลนด์
- DISNEY HOTEL โรงแรมในเครือดิสนีย์
- Back
- Disney+Hotstar
- MOVIE AND ANIMATION
- Back
- โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท TOKYO DISNEY RESORT
- ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ HONG KONG DISNEYLAND
- เซียงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ Shanghai Disneyland
- โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท TOKYO DISNEY RESORT
- โตเกียวดิสนีย์แลนด์ l TOKYO DISNEYLAND
- โตเกียวดิสนีย์ซี TOKYO DISNEYSEA
- RESTAURANTS ร้านอาหารในโตเกียวดิสนีย์แลนด์
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- DISNEY HOTEL โรงแรมในเครือดิสนีย์
- RESTAURANT ร้านอาหาร
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- RESTAURANTS ร้านอาหาร
- DISNEY HOTEL โรงแรมในเครือดิสนีย์
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- RESTAURANT ร้านอาหารเซียงไฮ้ดิสนีย์แลนด์
- DISNEY HOTEL โรงแรมในเครือดิสนีย์
- Back
- โตเกียวดิสนีย์แลนด์ l TOKYO DISNEYLAND
- โตเกียวดิสนีย์ซี TOKYO DISNEYSEA
- RESTAURANTS ร้านอาหารในโตเกียวดิสนีย์แลนด์
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- DISNEY HOTEL โรงแรมในเครือดิสนีย์
- RESTAURANT ร้านอาหาร
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
 
								





 
															


