เคยสงสัยไหมว่าทำไมในเทพนิยายต่างๆ สัตว์วิเศษและสิ่งมีชีวิตพิเศษถึงให้ความเคารพและช่วยเหลือเจ้าหญิง-เจ้าชายแบบไม่ลังเล? ทำไมคนแคระถึงยอมให้สโนว์ไวท์พักอาศัยที่บ้าน? ทำไมนกน้อยและสัตว์ป่าถึงคอยช่วยเหลือเจ้าหญิง? ทำไมยูนิคอร์นถึงยอมให้เฉพาะเจ้าหญิงเข้าใกล้? คำตอบอยู่ที่ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับ “เลือดสีน้ำเงิน” หรือสายเลือดราชวงศ์นั่นเอง

ที่มาของคำว่า 'เลือดสีน้ำเงิน'
ที่มาของคำว่า ‘เลือดสีน้ำเงิน’ มีความน่าสนใจมากๆ! ตั้งแต่ยุคกลางต่อเนื่องมาถึงยุคเรเนซองส์ ชนชั้นสูงและราชวงศ์ยุโรปมักมีผิวขาวซีดกว่าชาวบ้านทั่วไป เพราะไม่ต้องทำงานกลางแดด และยังไม่รวมการใช้เครื่องสำอางผสมปรอทที่ทำให้ผิวขาวซีดสะใจกว่าเดิมนะคะ สมัยนั้นฮิตกันมาก ๆ เลย เพราะยิ่งทายิ่งขาว พอทาไปนาน ๆ ผิวหนังก็จะเริ่มบางลงส่งผลทำให้เส้นเลือดใต้ผิวสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ๆ เป็นสีฟ้าหรือน้ำเงินได้ชัดเจน
ในขณะที่ชาวบ้านผิวคล้ำจากการทำงานกลางแจ้ง และไม่มีเงินซื้อเครื่องสำอางจากปรอทประทินโฉม จึงมองไม่เห็นเส้นเลือด .. และนี่คือที่มาแรกเริ่มของคำว่า ‘blue blood’ หรือ ‘เลือดสีน้ำเงิน’ ที่ใช้เรียกชนชั้นสูงนั่นเอง

The book of the unicorn โดย Linda Garland
แต่ความเชื่อนี้ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้นค่ะ! เพราะในความเชื่อและคติชนโบราณ คนไม่ได้คิดว่าราชวงศ์มีแค่เส้นเลือดสีน้ำเงินให้เห็น แต่เชื่อว่าเลือดในตัวพวกเขาแตกต่างจากคนทั่วไปจริง ๆ พวกเขาเชื่อว่าราชวงศ์มี “สิทธิ์จากสวรรค์” (Divine Right) คือได้รับการเลือกจากเทพเจ้าให้มาปกครอง เลือดของพวกเขาจึงมีความ “ศักดิ์สิทธิ์” ผสมด้วยพลังจากสวรรค์ที่คนธรรมดาไม่มี
นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่หลาย ๆ ราชวงศ์ในประวัติศาสตร์พยายามรักษาสายเลือดให้ “บริสุทธิ์” กันสุดฤทธิ์ด้วยการแต่งงานกับสมาชิกราชวงศ์ด้วยกันเท่านั้น เพราะพวกเขากลัวว่าหากแต่งงานกับสามัญชน “เลือดสีน้ำเงิน” จะถูกทำให้ “เจือจาง” และอาจสูญเสียพลังพิเศษไป นอกจากนี้สีฟ้า / สีน้ำเงินยังเป็นสีของท้องฟ้าและสวรรค์ เป็นสัญลักษณ์แห่งการเชื่อมโยงกับเทพเจ้า ยิ่งตอกย้ำความพิเศษของเลือดราชวงศ์เข้าไปอีก
อีกความเชื่อที่แพร่หลายในหลายวัฒนธรรมคือ กษัตริย์และราชินีที่มีเลือดสีน้ำเงินบริสุทธิ์มีความเชื่อมโยงกับความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน หากผู้ปกครองเป็นคนดีและมีเลือดราชวงศ์แท้ แผ่นดินจะอุดมสมบูรณ์ ฝนจะตกตามฤดูกาล พืชจะงอกงาม .. ในทางกลับกัน หากผู้ปกครองชั่วร้าย แผ่นดินจะแห้งแล้ง เกิดภัยพิบัติ ทำให้สัตว์ป่าและสิ่งมีชีวิตที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตวิเศษมองว่าผู้มีเลือดสีน้ำเงินคือ “ผู้ถูกเลือก” ให้มับทบาทสำคัญต่อโชคชะตา ทำให้คนแคระ นางฟ้า หรือเหล่าสัตว์ต่าง ๆ สามารถมองเห็น “สายใยโชคชะตา” ที่คนทั่วไปมองไม่เห็น ทำให้พวกเขารู้ว่าการช่วยเหลือราชวงศ์ = การช่วยสมดุลธรรมชาติ+โชคชะตาอันยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น
อย่างเช่น.. ในกรณีของคนแคระกับสโนว์ไวท์ เพราะคนแคระในเทพนิยายนั้นไม่ใช่แค่กลุ่มคนตัวเล็ก ๆ ที่มีความผิดปกติทางด้านพันธุ์กรรมธรรมดา ๆ แต่ตามคติชนโบราณเชื่อว่า คนแคระคือสิ่งมีชีวิตวิเศษที่อาศัยใต้ภูเขาเชี่ยวชาญเรื่องแร่และอัญมณี! พวกเขามีพลังพิเศษในการมองเห็น “คุณค่าที่แท้จริง” ของสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอัญมณีหรือคน ดังนั้นเมื่อสโนว์ไวท์หนีมาขอความช่วยเหลือแล้วบอกว่าเธอเป็นเจ้าหญิง คนแคระไม่ได้เชื่อแค่คำพูดเท่านั้น แต่พวกเขา “มองเห็น” และ “รับรู้” ได้ว่าเธอมี “เลือดสีน้ำเงิน” ที่เปล่งประกายเหมือนอัญมณีล้ำค่าซึ่งไม่อาจปลอมแปลงได้นั่นเอง

Snow White โดย Arthur Rackham
หรือ ตำนานยูนิคอร์นกับเจ้าหญิง – ยูนิคอร์นเป็นสัตว์วิเศษที่แข็งแกร่ง สง่างาม น่าดึงดูด แต่ว่าก็ดุร้ายมากเช่นกัน แต่ในตำนานเล่าว่า คนที่จะทำให้ยูนิคอร์นเชื่องได้ และยอมให้เข้าใกล้จะมีแค่เฉพาะเจ้าหญิงที่จิตใจดีงาม และยูนิคอร์นจะหลั่งน้ำตาให้เฉพาะผู้มีเลือดบริสุทธิ์ โดยน้ำตาของยูนิคอร์นก็เป็นสิ่งวิเศษที่ว่ากันว่ามีพลังรักษาโรคร้ายได้ … ความเชื่อนี้ได้แสดงให้เห็นว่าความบริสุทธิ์ของเจ้าหญิงและความศักดิ์สิทธิ์ของเลือดราชวงศ์มีพลังที่สามารถเชื่อมต่อกับสัตว์วิเศษได้นั่นเอง

The Eyes of the Unicorn Book โดย Holiday House
ในบางตำนานเล่าว่าเลือดของกษัตริย์และราชินีแท้ ๆ มีพลังในการรักษาโรคได้ ทำให้ในยุโรปยุคกลางมีความเชื่อว่าการแตะต้องกษัตริย์สามารถรักษาโรคบางชนิดได้ เพราะพลังที่อยู่ในเลือดของพวกเขา ความเชื่อนี้ยิ่งทำให้สิ่งมีชีวิตวิเศษในเทพนิยายให้ความเคารพและยกย่องผู้มีเลือดสีน้ำเงินแท้ ๆ มากขึ้นไปอีก
การช่วยเหลือเจ้าหญิงหรือเจ้าชายในเทพนิยายจึงไม่ใช่เพียงเพราะความสงสาร แต่เป็นเพราะสัตว์วิเศษและสิ่งมีชีวิตในโลกเวทมนตร์เหล่านี้ “รับรู้” ถึงความสำคัญของเลือดสีน้ำเงินต่อความสมดุลของธรรมชาติ เห็นถึงแก่นแท้และพลังพิเศษที่ซ่อนอยู่ในเลือดศักดิ์สิทธิ์ที่คนธรรมดามองไม่เห็น
เรื่องราวเหล่านี้สะท้อนให้เห็นความเชื่อในยุคก่อนที่มองว่าราชวงศ์มีความพิเศษเหนือธรรมชาติ ไม่ใช่แค่เพราะอำนาจหรือความมั่งคั่ง แต่เพราะพวกเขามี “เลือดสีน้ำเงิน” ที่เชื่อมโยงกับเทพเจ้าและพลังศักดิ์สิทธิ์! ความเชื่อนี้ฝังรากลึกมากจนกลายเป็นธีมสำคัญในเทพนิยายทั่วโลก ทำให้เราเห็นสัตว์วิเศษและสิ่งมีชีวิตในเทพนิยายยอมเคารพและช่วยเหลือเจ้าหญิงเจ้าชายโดยสัญชาตญาณ แม้เจ้าหญิงจะปลอมตัวหรือไม่รู้ชาติกำเนิดของตัวเองก็ตามค่ะ
- All Posts
- DAILY DISNEY NEWS
- Disney Cruise Line
- รวมเรื่องเกี่ยวกับดิสนีย์แลนด์ DISNEY PARKS
- เกร็ดดิสนีย์
- Back
- RESTAURANT ร้านอาหาร
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- Back
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- RESTAURANTS ร้านอาหาร
- DISNEY HOTEL โรงแรมในเครือดิสนีย์
- Back
- RESTAURANTS ร้านอาหาร
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- Back
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- RESTAURANT ร้านอาหาร
- DISNEY HOTEL โรงแรมในเครือดิสนีย์
- Back
- โตเกียวดิสนีย์แลนด์ l TOKYO DISNEYLAND
- โตเกียวดิสนีย์ซี TOKYO DISNEYSEA
- DISNEY HOTEL โรงแรมในเครือดิสนีย์
- RESTAURANTS ร้านอาหาร
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- RESTAURANT ร้านอาหาร
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- Back
- Disney+Hotstar
- MOVIE AND ANIMATION
- Back
- โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท TOKYO DISNEY RESORT
- ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ HONG KONG DISNEYLAND
- เซียงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ Shanghai Disneyland
- โตเกียวดิสนีย์แลนด์ l TOKYO DISNEYLAND
- โตเกียวดิสนีย์ซี TOKYO DISNEYSEA
- DISNEY HOTEL โรงแรมในเครือดิสนีย์
- RESTAURANTS ร้านอาหาร
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- RESTAURANT ร้านอาหาร
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- RESTAURANTS ร้านอาหาร
- DISNEY HOTEL โรงแรมในเครือดิสนีย์
- ATTRACTICNS เครื่องเล่น
- RESTAURANT ร้านอาหาร
- DISNEY HOTEL โรงแรมในเครือดิสนีย์